
ไหว้พระ 9 วัด อยุธยา ต้นปี เพื่อชีวิตที่ดีขึ้น
หยุดเสาร์ – อาทิตย์ทั้งที จะนอนอุดอู้อยู่แต่ในบ้านได้ยังไง พาครอบครัว คุณพ่อ, คุณแม่ และสามี ไปทำบุญให้มีความสุขกายสบายใจ กับการไหว้พระ 9 วัดดีกว่า แต่ถ้าไปวัดเดียวจบ 9 วัดก็ออกจะเหนื่อยเสียหน่อย แถมในแต่ล่ะวัดก็จะใช้เวลาได้ไม่นานด้วย ถ้าไปไหว้แบบรีบๆก็อาจจะทำให้ทุกคนเหนื่อยและต้องรีบทำเวลาได้ เ9พราะฉะนั้นจึงวางแพลนไว้ 2 วัน จะได้มีเวลาชิวๆหน่อย วันเสาร์ 5 วัด ส่วนวันอาทิตย์ 4 วัดก็ท่าจะดี เอาล่ะเริ่มออกเดินทางจากกรุงเทพตั้งแต่ ตี 5 ครึ่งเลยจะได้มีเวลาเดินได้ทั้งวัน
ตะลุย 9 วัดในอยุธยา ในวันเสาร์ – อาทิตย์
วัดแรกขอเริ่มจาก ‘วัดพนัญเชิงวรวิหาร’ ซึ่งตั้งอยู่บริเวณริมแม่น้ำป่าสัก ห่างจากตัวเมือง 5 กิโลเมตรเท่านั้น โดยเป็นวัดที่มีความเก่าแก่อีกแห่งหนึ่ง เป็นที่ประดิษฐานของ หลวงพ่อโต ซึ่งเป็นที่เคารพนับถือศูนย์รวมแห่งศรัทธา แค่วัดแรกก็สร้างความประทับใจได้มากแล้ว ส่วนที่ฉันชอบมากก็คือ ‘ตำหนักเจ้าแม่สร้อยดอกหมาก’ ซึ่งมีการตกแต่งด้วยลวดลายศิลปะแบบจีนมีความน่าเลื่อมใสเป็นอย่างมาก
ต่อมาวัดที่ 2 วัดใหญ่ชัยมงคล ที่มีการสร้างพระตำหนักสมเด็จพระนเรศวรมหาราชไว้ให้ผู้ศรัทธาเข้าไปเยี่ยมชม โดยวันที่พวกเราไปผู้คนค่อนข้างเนืองแน่นมาก แสดงให้เห็นถึงความเลื่อมใสของผู้คนจากทั่วฟ้าเมืองไทยจริงๆ เมื่อมาถึงวัดนี้ก็ราวๆ 10 โมงได้ พบว่าโดยรอบวัด มีสวนหย่อมไว้ให้นักท่องเที่ยวได้เดินทางมาพักผ่อนหย่อนใจ มีความเขียวขจีกับต้นไม้ซึ่งได้รับการตัดแต่งมาเป็นอย่างดี จึงแวะถ่ายรูปเสียหน่อย เพลินไปเลย
ล้อหมุนต่อไปยังวัดที่ 3 วัดหน้าพระเมรุ ซึ่งตั้งอยู่ในตำบลท่าวาสุกรี วัดนี้เนืองแน่นไปด้วยผู้คนแบบสุดๆ เพราะพวกเขาต่างเดินทางมาเพื่อนมัสการ ‘หลวงพ่อพระพุทธนิมิตวิชิตมารโมลีศรีสรรเพชญ์บรมไตรโลกนาถ’ ซึ่งเป็นพระพุทธรูปทรงเครื่องใหญ่ ซึ่งเมื่อยามแรกเห็นมีความสวยงามอย่างที่สุด คุณแม่แลดูท่าจะชอบใจวัดแห่งนี้เป็นที่สุด เมื่อไหว้พระเสร็จเรียบร้อยแล้วพวกเราจึงเดินทางไปยังวัดต่อไป
วัด 4 วัดมหาธาตุ วัดแห่งนี้ตั้งอยู่ในเขตอุทยานประวัติศาสตร์พระนครศรีอยุธยา ซึ่งมีประวัติความเป็นมาอันยาวนาน โดยวักแห่งนี้มีความพิเศษมากๆเลยค่ะ เพราะเป็นอีกวัดหนึ่ง ซึ่งเป็นสถานที่เก็บรวบรวมศิลปะตลอดจนสถาปัตยกรรมในหลายยุคหลายสมัย ทำให้รู้สึกเลยว่าการเดินทางมาครั้งนี้มีความคุ้มค่าจริงๆ
วัด 5 วัดพุทไธศวรรย์ ซึ่งเป็นวัดสุดท้ายของวันนี้ ความเหนื่อยล้าเริ่มปรากฏให้เห็น ในสีหน้าของสมาชิกทุกคน เพราะตื่นตั้งแต่เช้า และต้องเจอแดดตลอดเวลา เพราะฉะนั้นเราจะใช้เวลากับวัดนี้ให้นานเสียหน่อย ถือเป็นการพักไปในตัว ซึ่งความเป็นมาของวัดนี้ไม่ธรรมดาเลยคะ เพราะเป็นวัดที่รอดจากการถูกเผาทำลาย ในปี พ.ศ. 2310 มีความสมบูรณ์มากเหมือนได้ย้อนไปในอดีตเลยค่ะ หลังจากเดินเล่นชม ‘ตำหนักสมเด็จพระพุทธโฆษาจารย์’ สักพัก พวกเราก็เดินทางกลับที่พักทันที คืนนั้นเมื่อหัวถึงหมอนก็หลับเป็นตายเลยค่ะ
เช้าวัดต่อมาหลังจากชาร์ตแบตร่างกายกันเป็นที่เรียบร้อยแล้ว คราวนี้ก็ถึงเวลาไปทำบุญต่อ เริ่มจากวัดไชยวัฒนาราม ซึ่งต้องขอบอกเลยว่าถ้าคุณมีเวลาชมเพียงไม่กี่วัด วัดไชยวัฒนาราม คือ วัดที่คุณต้องมา! เพราะภายในประกอบด้วยซากพระประธาน ซึ่งสร้างด้วยหินทรายตามแบบฉบับงานโบราณอยู่ สถานที่แห่งนี้เต็มไปด้วยความสวยงาม อันแสนยิ่งใหญ่ตระการตาแบบที่จะทำให้ตะลึงแบบไม่ยากเลย
เอาล่ะการเดินทางใกล้สิ้นสุดกับวัด 8 วัดธรรมิกราช คนรักงานศิลปะโบราณห้ามพลาด เนื่องจากภายในอัดแน่นไปด้วยงานพุทธศิลป์ซึ่งหาชมได้อย่างยากยิ่ง เช่น วิหารพระพุทธไสยาสน์, องค์พระนอน ความยาว 12 เมตร, เจดีย์สิงห์ล้อม เป็นต้น ในวัดแห่งนี้มีมุมถ่ายรูปสวยๆเพียบเลยค่ะ
สุดท้ายของทริปนี้จบลงด้วย ณ วัดแม่นางปลื้ม ตั้งอยู่ตำบลหัวรอ อำเภอพระนครศรีอยุธยา วัดเก่าแก่ซึ่งมีโบราณสถานที่น่าสนใจมากมาย เช่น พระวิหารเก่าแก่,หลวงพ่อขาว , เจดีย์สิงห์ล้อม ซึ่งเป็นการจบทริปที่สร้างความอิ่มเอมในจิตใจได้มากขึ้นเลยค่ะ